หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

ก่อสร้างมัสยิดหลังแรกแห่งกรุงเอเธนในรอบ 180 ปี

ภาพนักท่องเที่ยวกำลังละหมาดภายในสุหร่าแห่งหนึ่งในกรุงเอเธน (ภาพ: LOUISA GOULIAMAKI / AFP)

นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองศตวรรษ ที่มัสยิดกำลังจะถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการในใจกลางเมืองหลวงของกรุงเอเธนในประเทศกรีก

การดำเนินการในครั้งนี้ถือเป็นการสิ้นสุดลงของกฏหมายการห้ามสร้างมัสยิดที่เคยใช้อยู่เป็นเวลา 180 ปีในการก่อสร้างมัสยิดในกรุงเอเธนของรัฐบาลกรีก

ตามรายงานข่าวจากทางพรีสทีวี ทางการรัฐบาลกรีกได้อนุมัติร่างกฏหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างมัสยิด เพื่อให้มีความลุล่วงรวดเร็วที่ใช้เวลาในการร่างไว้นับตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เพื่อก่อสร้างมัสยิดในกรุงเอเธน

ไม่มีการสร้างมัสยิดแห่งใหม่ ทว่ามีมัสยิดที่ไม่เป็นทางการกว่า 100 แห่ง

ไม่มีมัสยิดที่สร้างขึ้นใหม่ในกรุงเอเธนภายหลังจากยุคการล่มสลายของอาณาจักรอุศมานียะห์ในแผ่นดินกรีกเมื่อปี 1829

ศาสนาอิสลามถือเป็นศาสนาทางการของอาณาจักรอุษมานียะห์ ซึ่งคาดว่ามีประชากรกว่าหนึ่งล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศกรีก

ในกรุงเอเธนอย่างเดียวมีประชากรมุสลิมอยู่ประมาณ 200.000 คน ที่ได้ใช้มัสยิดที่ไม่ได้เป็นทางการ ที่คาดว่ามีประมาณ 100 แห่ง ที่ส่วนใหญ่เป็นการดัดแปลงสถานที่เพื่อความเหมาะสมเท่านั้น

ด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรผู้เดินทางอพยพจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่ไหลทะลักเข้าสู่ประเทศกรีก ที่มีจำนวนประชากรมุสลิมได้เพิ่มเป็นเงาตามตัว ซึ่งหมายถึงความจำเป็นในการใช้มัสยิดต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย

เอเธนถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของทวีปยุโรป ที่ไม่มีมัสยิดเลยก็ว่าได้

นายกเทศมนตรีกล่าวว่า ถือเป็นสิทธิในการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา

นายกเทศมนตรีกรุงเอเธน จีโรกอส กามีนิส ได้กล่าวว่า ร่างกฏหมายฉบับใหม่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับให้สิทธิ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในด้านการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาที่วางอยู่บนหลักการการให้ความเคารพต่อผู้นับถือศาสนา

ร่างกฏหมายฉบับใหม่นั้นคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอยู่ที่ 946.000 ยูโร หรือ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างมัสยิดแห่งหนึ่งในฐานทัพเรือที่ตอนนี้ไม่ได้ใช้งาน ที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือกรีก

หลังจากที่อาณาจักรอุษมานียะห์ได้ล่มสลายลงในประเทศกรีก โบสถ์ของชาวออทอดอกส์แห่งกรีกได้กลายเป็นเจ้าของประเทศโดยปริยาย

ซึ่งมัสยิดทิสตารากิสที่อยู่ใจกลางกรุงเอเธน ที่เป็นหนึ่งในอีกหลายๆ มัสยิดในยุคอุษมานียะห์ ที่ยังคงมีอยู่ในกรุงเอเธน ที่ต่อมาถูกปรับปรุงใช้ทำเป็นเรือนจำ

ที่มา http://berita.mediacorp.sg/mobilem/world/masjid-dibina-di-athens/3069526.html